
สำหรับบุคคลที่ตัดสินใจเข้ารับการ ทำจมูก หรือ เสริมจมูก การเกิดอาการ “จมูกอักเสบเรื้อรัง” หรืออาการบวมแดงผิดปกติที่คงอยู่เป็นระยะเวลานานภายหลังการผ่าตัดนับเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่สร้างความกังวลอย่างยิ่ง ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้มาจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลรวมของปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับวัสดุเทียมที่ใช้ และสภาวะทางกายวิภาคของโครงสร้างจมูก บทความนี้จะวิเคราะห์สาเหตุหลักของการอักเสบเรื้อรังหลังการ เสริมจมูก และชี้ให้เห็นวิธีการสังเกตความแตกต่างของแต่ละปัจจัย
สัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะอักเสบเรื้อรัง
โดยปกติแล้ว อาการอักเสบภายหลังการ ทำจมูก ควรจะทุเลาลงและหายสนิทภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่หากผู้ป่วยยังคงมีอาการต่อไปนี้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อาจบ่งชี้ถึงปัญหาเรื้อรังที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขทางการแพทย์
อาการที่ควรสังเกต ได้แก่ การบวมแดงที่ไม่จางหายไป โดยเฉพาะบริเวณปลายจมูกหรือสันจมูกที่ได้รับการเสริมวัสดุ, ความรู้สึกตึงหรือเจ็บปวดแบบตื้อๆ อย่างต่อเนื่อง, ผิวหนังบริเวณปลายจมูกเริ่มบางลงจนเห็นขอบวัสดุ หรือมีสีแดงคล้ำ และในบางกรณีอาจมีของเหลวหรือหนองไหลซึมออกมาจากรอยแผลผ่าตัดเก่า
1. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับวัสดุภายนอก: ซิลิโคนและวัสดุสังเคราะห์
สาเหตุหลักที่เชื่อมโยงกับวัสดุเทียมที่ใช้ในการ เสริมจมูก คือการที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน หรือการปนเปื้อนของเชื้อโรคบนผิววัสดุ
การติดเชื้อที่ผิวซิลิโคน (Biofilm Infection)
ภาวะนี้ถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของการอักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อไม่ได้เกิดขึ้นทันทีหลังการผ่าตัดเสมอไป แต่อาจเกิดจากการที่แบคทีเรียเข้าไปเกาะตัวบนพื้นผิวของซิลิโคนและสร้างชั้นฟิล์มป้องกัน (Biofilm) ซึ่งทำให้ยาปฏิชีวนะไม่สามารถเข้าถึงและกำจัดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาการที่สังเกตได้มักเป็นการบวมแดงที่เกิดขึ้นและหายไปสลับกัน อาจมีอาการปวดหรือหนองร่วมด้วย การรักษาที่จำเป็นมักเกี่ยวข้องกับการนำซิลิโคนออกเพื่อทำความสะอาดและพิจารณาเปลี่ยนไปใช้วัสดุธรรมชาติในการผ่าตัดแก้ไข
ปัญหาผิวหนังบางและการทะลุ
หากศัลยแพทย์เลือกใช้ซิลิโคนที่ขนาดโด่งมากเกินไป หรือมีความยาวที่ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างภายใน จะทำให้เกิดแรงกดทับอย่างรุนแรงต่อผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณปลายจมูก เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหนังจะเริ่มบางลง นำไปสู่การอักเสบ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการที่วัสดุที่ใช้ ทำจมูก ทะลุออกมาได้
2. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างภายใน: สภาวะกายวิภาคเดิมและการตอบสนองทางชีวภาพ
แม้จะมีการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงและเทคนิคการ เสริมจมูก ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน แต่การอักเสบเรื้อรังบางครั้งก็มีต้นตอมาจากปัจจัยภายในของร่างกายและลักษณะทางกายวิภาคเดิม
ปฏิกิริยาต่อไหมเย็บหรือวัสดุเสริมภายใน
ในการ ทำจมูก แบบเปิด (Open Rhinoplasty) หรือในกรณีที่มีการใช้ไหมละลายชนิดพิเศษเพื่อจัดโครงสร้าง อาจเกิดปฏิกิริยาของร่างกายต่อไหมเย็บที่ไม่สลายตัว การอักเสบจะปรากฏเป็นก้อนแข็งขนาดเล็กที่มีอาการแดงร่วมด้วย
ปฏิกิริยาต่อต้านวัสดุภายในร่างกาย (Foreign Body Reaction)
ในบางราย ร่างกายอาจแสดงปฏิกิริยาต่อต้านซิลิโคนหรือวัสดุฝังอื่นๆ โดยที่ไม่ได้เกิดการติดเชื้อโดยตรง ร่างกายจะตอบสนองด้วยการสร้างเนื้อเยื่อแคปซูลหุ้ม (Capsule) ให้หนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกตึงและแข็งกระด้างอย่างเรื้อรัง
ภาวะการติดเชื้อหรือบาดเจ็บจากโครงสร้างเดิม
หากผู้เข้ารับบริการมีประวัติการติดเชื้อในโพรงจมูกเรื้อรัง หรือมีภาวะผนังกั้นจมูกคด (Septal Deviation) ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ในการ ทำจมูก ครั้งแรก ปัญหาทางโครงสร้างภายในเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อกระบวนการหายของแผล และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรังตามมาได้
การแก้ไขปัญหาจมูกอักเสบเรื้อรังจำเป็นต้องอาศัยการวินิจฉัยที่แม่นยำจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งส่วนใหญ่มักต้องใช้เทคนิคการ เสริมจมูก แบบ Open เพื่อเข้าถึงและตรวจสอบวัสดุรวมถึงโครงสร้างภายในอย่างละเอียด หากสาเหตุคือการติดเชื้อหรือปัญหาการทะลุ วัสดุเทียมจะต้องถูกนำออกเพื่อทำความสะอาดและพักฟื้น ก่อนจะพิจารณาการแก้ไขด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดูกอ่อนซี่โครงต่อไป การเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกของแต่ละบุคคลตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด สำหรับข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศัลยกรรมจมูก สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.issaveeclinic.com/

