การทำจมูกเป็นหนึ่งในหัตถการศัลยกรรมยอดนิยมที่คนไทยมักทำเพื่อช่วยปรับรูปใบหน้าให้สมส่วนและดูมีมิติขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การทำจมูกมีหลากหลายวิธีให้เลือก แต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน วันนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการเสริมจมูกแต่ละประเภท และช่วยให้คุณเลือกแบบที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
การทำจมูกมีกี่แบบ?
การทำจมูก เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมที่ช่วยเสริมให้จมูกดูโด่งขึ้น ซึ่งมี 3 เทคนิคหลักที่เหมาะกับรูปทรงจมูกเดิม ใบหน้า และงบประมาณของแต่ละคน โดยแต่ละเทคนิคจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- เสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)
เสริมจมูกแบบปิด เป็นเทคนิคที่ศัลยแพทย์เปิดแผลผ่าตัดภายในรูจมูก โดยไม่ต้องกรีดฐานจมูกด้านนอก ทำให้ไม่มีแผลภายนอกและลดการบวมช้ำได้ดี วิธีนี้มักใช้สำหรับการเสริมซิลิโคนเพื่อเพิ่มความโด่งของสันจมูกเพียงเล็กน้อย โดยไม่ต้องแก้ไขกระดูกหรือโครงสร้างภายในจมูกมากนัก
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด
- ไม่มีแผลภายนอก เพราะเปิดแผลด้านในรูจมูกเท่านั้น
- ฟื้นตัวเร็วกว่าแบบเปิด เนื่องจากเนื้อเยื่อถูกกระทบน้อยกว่า
- ลดอาการบวมช้ำ เพราะไม่ได้กรีดฐานจมูก
- เหมาะกับการเสริมซิลิโคน ถ้าโครงสร้างเดิมดีอยู่แล้ว สามารถทำให้โด่งขึ้นได้ง่าย
- ใช้เวลาผ่าตัดสั้น โดยทั่วไปใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง
- ใช้งบน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบปิด
- ปรับแต่งโครงสร้างได้น้อย ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างกระดูกอ่อนจมูกได้มาก
- เสริมความโด่งของจมูกได้ไม่มาก
- ไม่เหมาะกับการแก้ไขจมูกที่มีปัญหามาก เช่น จมูกเบี้ยว จมูกสั้น และปลายจมูกหนา
- เสริมจมูกแบบ Semi Open
Semi-Open Rhinoplasty เป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่เปิดแผลบริเวณ ด้านในของรูจมูก และกรีดเพิ่มบางส่วนที่ฐานจมูก แต่จะไม่เปิดทั้งหมดเหมือนกับแบบ Open ซึ่งช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงโครงสร้างภายในจมูกได้มากขึ้น และสามารถปรับโครงสร้างจมูกเดิมได้กว่าการเสริมจมูกแบบปิด ทำให้ได้ทรงจมูกที่โด่งมากขึ้น และช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและใช้เวลาฟื้นตัวเร็วกว่าแบบเปิด
ข้อดีของเสริมจมูกแบบ Semi Open
- เหมาะกับคนที่ต้องการปรับทรงจมูกมากกว่าการเสริมแบบปิด แต่ไม่อยากพักฟื้นนานเหมือนแบบเปิด
- ปรับปลายจมูกได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเสริมปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
- ลดความเสี่ยงของซิลิโคนทะลุ เพราะสามารถปรับปลายให้พอดี
- แผลเล็กกว่าแบบ Open ทำให้มีอาการบวมช้ำน้อยกว่า
- เหมาะกับคนที่ต้องการให้จมูกดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ข้อเสียของเสริมจมูกแบบ Semi Open
- ปรับแต่งโครงสร้างจมูกได้น้อยกว่าแบบเปิด
- ไม่สามารถแก้ไขจมูกที่เบี้ยวหรือมีปัญหาโครงสร้างจมูกเยอะได้
- เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)
เสริมจมูกแบบเปิด เป็นเทคนิคที่ศัลยแพทย์ทำการเปิดแผล บริเวณฐานจมูก และด้านในรูจมูก ทำให้สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในของจมูกได้อย่างชัดเจน วิธีนี้ช่วยให้แพทย์สามารถ แก้ไขโครงสร้างกระดูกอ่อน, ปรับฐานจมูก, ยืดปลายจมูก หรือเปลี่ยนแปลงรูปร่างจมูกได้มากขึ้น ทำให้ได้ทรงจมูกที่โด่งและเป๊ะกว่าวิธีอื่น
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบเปิด
- ปรับแต่งโครงสร้างได้ละเอียดและแม่นยำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงทรงจมูกอย่างชัดเจน
- สามารถใช้แก้ปัญหาจมูกเบี้ยว จมูกสั้น จมูกพัง หรือซิลิโคนทะลุ
- สามารถเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูหรือกระดูกซี่โครง ลดความเสี่ยงจากซิลิโคนทะลุ
- แก้ไขโครงสร้างฐานจมูกได้ เช่น การลดขนาดปีกจมูกหรือการปรับฐานกระดูก
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบเปิด
- ใช้เวลาพักฟื้นนาน อาจบวมและช้ำมากกว่าการเสริมจมูกแบบปิดหรือ Semi open
- ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะมีแผลที่ฐานจมูกจากการผ่าตัด
- มีราคาสูงกว่าแบบปิดและแบบ Semi open เพราะต้องใช้เทคนิคและความชำนาญของแพทย์มากกว่า
การทำจมูกมีหลายแบบ ซึ่งการเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน รวมถึงโครงสร้างจมูกเดิมและผลลัพธ์ที่ต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนตัดสินใจทำจมูก
หากคุณกำลังพิจารณาการทำจมูก ลองศึกษาข้อมูล และอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการทำจมูกเพิ่มเติมได้ที่ https://www.issaveeclinic.com/