วางแผนภาษีปลายปีต้องเตรียมอะไรบ้าง

เผลอแปปเดียวก็ใกล้จะปลายปีแล้ว การเตรียมการวางแผนภาษีตั้งแต่ปลายปีเพื่อยื่นภาษีในช่วงต้นปีเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยควรทำการเตรียมอย่างรอบคอบเพื่อลดโอกาสการผิดพลาดของเอกสารต่างๆ เพื่อไม่ให้ตกหล่นในการลดหย่อนภาษีด้วยวิธีดังนี้:

รวบรวมข้อมูลของรายได้: รวบรวมข้อมูลทุกแหล่งรายได้ของคุณหรือธุรกิจของคุณทั้งหมด รวมถึงรายได้จากเงินเดือน, ธุรกิจ, การลงทุน, และอื่นๆ ที่อาจเข้ามาในรายได้ของคุณในปีนี้.

ระบุค่าใช้จ่าย: ทำการระบุค่าใช้จ่ายที่คุณสามารถลดลงได้ เช่น ค่าใช้จ่ายในการลงทุน, ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ, ค่าเรียนการศึกษา, หรือค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ นี่เป็นต้น.

พิจารณาการลดหย่อนภาษี: ตรวจสอบหากมีสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีใด ๆ ที่อาจช่วยลดภาษีได้ เช่น การลดหย่อนภาษีเงินออมกับกองทุนรวม, การสนับสนุนการศึกษา, หรือการสนับสนุนการกุศล ทำให้คุณจะต้องเสียภาษีน้อยลง.

ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเสนอภาษี: ตรวจสอบกฎหมายภาษีประเทศไทยเพื่อทราบขั้นตอนการนำเสนอภาษีและกำหนดกำหนดส่งภาษีปลายปี แนะนำให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือที่ปรึกษาภาษีเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมหากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัย.

จัดทำรายงานภาษี: จัดทำรายงานภาษีที่จำเป็นตามกฎหมายและต้องการ รวมถึงแบบแสดงรายการรายได้และรายการค่าใช้จ่าย.

ส่งภาษี: ทำการส่งเอกสารและชำระภาษีตามกำหนด หากคุณใช้บริการออนไลน์เพื่อส่งภาษี ตรวจสอบว่าคุณได้ทำเป็นอย่างถูกต้องและตามกำหนด.

เตรียมการสำหรับปีภาษีถัดไป: พิจารณาการวางแผนสำหรับปีภาษีถัดไปเพื่อลดหย่อนภาษีในอนาคต นำเสนอกลยุทธ์การเงินที่ดีกว่าและวางแผนการเสริมสร้างสภาพการเงินของคุณ.

การเตรียมภาษีปลายปีนี้เป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้คุณมีการเงินที่สมดุลและลดภาระภาษีในอนาคต หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางแผนภาษีของคุณ ควรปรึกษากับนักบัญชีหรือที่ปรึกษาภาษีเพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือ หากคุณหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีการซื้อประกันออมทรัพย์ก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน รวมถึงยังเป็นการออมเงินและคุ้มครองชีวิตได้อีกด้วย คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันออมทรัพย์ได้ที่ https://www.kwilife.com/endowment

เลือกประกันออมทรัพย์ให้ตอบโจทย์ต่อชีวิต

อยากมีเงินเก็บต้องทำอย่างไรและมีวิธีอะไรบ้าง คงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนต่างหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีเงินเก็บและยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้และมีเงินเก็บเช่นกัน นั่นก็คือประกันออมทรัพย์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการมีเงินเก็บ แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นคง พร้อมยังทำหน้าที่เป็นประกันลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ประกันออมทรัพย์ คืออะไร?
เป็นประกันออมทรัพย์อีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นทางด้านการเงิน พร้อมรับกับความคุ้มครองไปพร้อมๆกันด้วย เมื่อส่งเบี้ยประกันครบตามระยะเวลาที่ระบุในกรมธรรม์ ประกันก็จะจ่ายเงินคือให้แบบครั้งเดียว ไม่สามารถถอนออกมาใช้ก่อนได้ ถ้าหากเกิดการเสียชีวิตระหว่างส่งกรมธรรม์ คนที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ก็จะได้รับเงินก้อนตามที่ระบุไว้ในสัญญา

ข้อดีของ ประกันออมทรัพย์
-ประกันออมทรัพย์เป็นการออมเงินที่มีผลตอบแทนแน่นอน จะรู้ว่าได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดเท่าไหร่ตั้งแต่ก่อนที่จะเซ็นต์สัญญา ยิ่งเราส่งเบี้ยประกันเยอะผลตอบแทนก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
-เป็นการลงทุนในรูปแบบการออมเงินที่มีความเสี่ยงที่ต่ำมากๆ แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีความเสี่ยงเลยก็ได้ และยังได้รับความคุ้มครองชีวิตด้วย เป็นประกันที่อยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างประกันชีวิต และการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทน
-เป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเอง และคนข้างหลัง (กรณีที่เสียชีวิตระหว่างส่งกรมธรรม์)
-ทำให้มีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต เป็นอีกหนึ่งแผนการเกษียณ
-ผลตอบแทนของ ประกันออมทรัพย์ ไม่เสียภาษีเหมือนดอกเบี้ยเงินฝากปกติ
-ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดถึง 100,000 บาท

เลือกซื้อประกันออมทรัพย์ที่คุ้มค่าที่สุด
วิธีเลือกซื้อที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ ให้คำนวณเบี้ยประกันทั้งหมดที่ต้องส่งวาเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่และจะได้รับเงินคืนเท่าไหร่ จากนั้นนำมาหารด้วยระยะเวลาทั้งที่ต้องเบี้ยประกัน และจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเงินที่ได้กลับคืนมาเป็นเท่าไหร่ ลองเปรียบเทียบกับหลายๆ บริษัทและตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ อย่าลืมดูทุนประกันด้วยนะคะ โดยเลือกสิ่งที่คุ้มค่าในแบบที่คุณต้องการมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันออมทรัพย์ควรพิจารณาแผนการออมเงินและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด และควรเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับความต้องการและสถานการณ์การเงินของคุณ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันออมทรัพย์ได้ที่ https://www.kwilife.com/endowment