การตั้งครรภ์ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจสุขภาพและความปลอดภัยในทุกเรื่อง แม้แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่าง ครีมกันแดดคนท้อง ก็ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น เพราะผิวของแม่ท้องมักจะมีความบอบบาง ไวต่อแสง และเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น ฝ้า กระ หรือผิวหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องความปลอดภัยของส่วนผสม ที่อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์โดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น การเลือก กันแดดคนท้อง จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสวย แต่คือเรื่องของสุขภาพและความสบายใจของคุณแม่ด้วยเช่นกัน บทความนี้จะพาไปดูว่าครีมกันแดดแบบไหนเหมาะกับแม่ตั้งครรภ์ พร้อมวิธีเช็กส่วนผสมและคำแนะนำที่คุณแม่ไม่ควรพลาด
ทำไมแม่ท้องต้องใส่ใจเรื่องครีมกันแดดมากเป็นพิเศษ?
พอท้องแล้วฮอร์โมนในร่างกายเราจะเปลี่ยนไปเยอะมาก โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนที่พุ่งขึ้นแบบน่าตกใจ ซึ่งเจ้าฮอร์โมนพวกนี้มันไปกระตุ้นให้ผิวของเรา ไวต่อแสงแดด แบบสุด ๆ แดดแค่แวะมาทักก็ทิ้งของฝากเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำไว้ให้เลยจ้า
บางคนก่อนท้องผิวดีมาก ไม่เคยเป็นฝ้าเลย พอท้องปุ๊บ… มาเต็มเหมือนแจกฟรี! เพราะฉะนั้น “กันแดด” จึงกลายเป็นเพื่อนซี้คนใหม่ที่แม่ท้องควรมีติดตัวไว้ตลอด แต่ก็ต้องเป็น กันแดดคนท้อง ที่ทั้งปลอดภัยกับผิวและไม่กระทบกับลูกในท้องด้วยนะ
เลือกครีมกันแดดคนท้องยังไงให้ปลอดภัย?
- เลือกสูตรกันแดดแบบ Physical (Mineral Sunscreen)
ครีมกันแดดมีอยู่หลัก ๆ 2 ประเภท คือ แบบ Chemical และแบบ Physical (หรือ Mineral) สำหรับแม่ตั้งครรภ์ ควรเลือกแบบ Physical มากกว่า เพราะเน้นการเคลือบผิวเพื่อสะท้อนรังสี UV ไม่ซึมเข้าสู่กระแสเลือด จึงปลอดภัยกว่า
สารสำคัญที่ควรมองหา ได้แก่ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ซึ่งถือเป็นสารกันแดดแบบธรรมชาติที่มีความอ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง - หลีกเลี่ยงสารที่อาจส่งผลกระทบต่อทารก
มีสารบางชนิดในครีมกันแดดที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ เช่น
- Oxybenzone: เป็นสารดูดซับรังสี UV ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนของทารก
- Retinol (Vitamin A): แม้จะดีต่อผิว แต่ไม่แนะนำสำหรับแม่ท้อง เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของทารก
- Parabens: สารกันเสียที่อาจรบกวนระบบต่อมไร้ท่อ
- Fragrance (น้ำหอม): ทำให้ระคายเคืองได้ง่ายโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย
การอ่านฉลากก่อนซื้อเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าส่วนผสมไหนอ่านไม่เข้าใจ หรือดูแล้วไม่แน่ใจ ให้ลองค้นหาข้อมูลก่อนใช้เสมอ
- SPF และ PA ต้องพอดี ไม่ต้องเวอร์วังอลังการ
อย่าคิดว่า SPF ยิ่งสูงยิ่งดีนะ บางที SPF สูง ๆ ก็มีโอกาสระคายเคืองผิวได้ง่าย แถมบางสูตรยังหนักหน้าอีกด้วย สำหรับแม่ท้อง เราแนะนำให้ใช้ SPF 30–50 ก็พอแล้ว ส่วนค่า PA++ หรือ PA+++ ก็กำลังดี ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB แบบไม่ทำร้ายผิวที่สำคัญ ควรทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพื่อให้การปกป้องยังคงมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง
ทาครีมกันแดดยังไงให้เห็นผลจริง แบบปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก
- ทาก่อนออกแดดประมาณ 15–20 นาที
- ใช้ปริมาณพอเหมาะ อย่าเกลี่ยบาง ๆ เพราะกันแดดจะไม่ทำงาน
- ทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมง โดยเฉพาะถ้าอยู่กลางแจ้ง
- หากใช้คู่กับเมคอัพ ให้ทากันแดดก่อนเสมอ แล้วรอให้เซ็ตตัวก่อนแต่งหน้า
- แนะนำให้ลองทาบริเวณใต้ท้องแขนก่อน วันแรก ๆ เพื่อดูว่ามีการแพ้มั้ยอีกหนึ่งเคล็ดลับคือ ลองทดสอบผลิตภัณฑ์บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหูก่อนใช้กับใบหน้า เพื่อดูว่ามีการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่ โดยเฉพาะแม่ท้องที่มีผิวแพ้ง่าย
ใช้กันแดดแล้ว…ยังต้องระวังแดดอย่างไรอีก?
แม้จะใช้ กันแดดคนท้อง แล้วก็ตาม แต่การดูแลตัวเองให้ห่างจากแดดจ้าโดยตรงก็ยังจำเป็น เช่น
- หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น.
- ใส่หมวกปีกกว้างหรือกางร่มเมื่อต้องเดินกลางแจ้ง
- ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกป้องรังสี UV ได้
- หมั่นบำรุงผิวหลังออกแดดด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เช่น Aloe Vera
- สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของกันแดด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าได้มากขึ้น
ครีมกันแดดคนท้อง ปลอดภัยไว้ก่อนคือดีที่สุด
เพื่อนสาวคนไหนที่กำลังจะเป็นคุณแม่ บอกเลยว่าห้ามละเลยการใช้ครีมกันแดดเด็ดขาด เพราะแค่แดดเมืองไทยก็แรงพอจะทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำแบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว ยิ่งช่วงตั้งครรภ์ผิวไวต่อแดดมากกว่าปกติอีก การมี ครีมกันแดดคนท้อง ดี ๆ ติดตัวไว้จึงเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้
จำไว้นะจ๊ะ… อย่ามองข้ามฉลาก อย่าลืมทดสอบการแพ้ และอย่าปล่อยให้แดดทำร้ายผิวสวย ๆ ของแม่เราได้ง่าย ๆ เพราะผิวดีวันนี้ จะได้ยังสวยอยู่หลังคลอด และมั่นใจว่าเราดูแลลูกตั้งแต่ในท้องจริง ๆ
ถ้าแม่ๆคนไหนยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกกันแดดคนท้องแบบไหนดี เราแนะนำว่าคุณแม่ควรที่จะปรึกาแพทย์หรือเภสัชก่อนเลือกซื้อเสมอนะคะ เพราไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าต้องทำอย่างไรเนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน แต่ความใส่ใจและข้อมูลที่ถูกต้อง คือ กุญแจสำคัญฝนการดูแลตัวเองฝนช่วงตั้งท้องให้ดีที่สุดนะคะ